1. ขนาด
เอาแต่ไซส์ยอดนิยมนะคะ
10" = W24 x H20 x D11 cm หรือถ้านับช่อง ก็ W5xH5 ช่อง
12" = W32 x H25 x D11 cm หรือถ้านับช่อง ก็ W7xH6 ช่อง
2. วัสดุ
Lady Dior ทำจากวัสดุหลายแบบมาค่ะ lambskin, calfskin, suede, denim, exotic leather (lizard or alligator), horsehair หรือ fabric (satin, nylon, organza) ฯลฯ
3. หูจับ
ก็มีทั้งแบบที่เป็น หนังหุ้ม, ผ้าหุ้ม, อะคริลิค
ซึ่งการดูเบื้องต้นแบบง่ายๆเลย ก็ตรงหูจับนี่แหละค่ะ หูจับเลดี้ดิออร์เป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์มาก จะ copy เกรดไหน ก็ยังไม่เคยเห็นทำได้เหมือนเลยค่ะ
หูจับจะมีลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม และนูน โดยที่เราจะเห็นด้ายเย็บที่ริมขอบนอกเท่านั้น ขอบด้านในจะไม่มีนะคะ
Credit: Dior Official Website
4. ผ้าบุ
ผ้าบุข้างในเลดี้ดิออร์จะเป็นผ้าทอลายโลโก้ดิออร์ ซึ่งเวลาถ่ายรูปออกมาจะไม่ขึ้นเงานะคะ (ถ้าเงาๆ จะเป็นของปลอมค่ะ)
- ลาย cannage quilted ซึ่งจะเป็นลายของเลดี้ดิออร์รุ่นเก่า
- ลาย CD logo pattern เป็นลายของรุ่นใหม่ๆแล้ว ถ้าจากที่เคยเห็นจะเป็นผ้าบุลายนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2003 เป็นต้นมาค่ะ
- แบบไม่มีลายอะไรเลย เคยเจอในรุ่นที่หนังข้างนอกพิมพ์ลาย logo Dior ทั้งใบค่ะ
- ลาย cannage quilted ถูกนำกลับมาใช้อีกรอบ ในช่วงปลายปี 2012 เป็นต้นมา
วิธีสังเกต ไม่ให้โดนเอาของเก่ามาเล่าใหม่คือ ป้ายแท๊กของรุ่นใหม่ จะเป็นสีเหลี่ยมขอบแหลมแล้ว ไม่ใช่ป้ายสี่เหลี่ยมขอบมนค่ะ
รุ่นใหม่ๆ ช่วงปลายปี 2012 เป็นต้นมา อย่างหนังแกะ ขอบกระเป๋าจะไม่เหมือนรุ่นเก่าค่ะ
3. ป้ายแท๊กด้านใน
ป้ายของ Lady Dior จะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า อยู่ตรงกลางกระเป๋า มีทั้งแบบเย็บเฉพาะขอบบน (เห็นในรุ่นเก่าๆ) และเย็บริมทั้ง 4 ด้าน และส่วนใหญ่ตัวหนังสือจะพิมพ์ตามสีของอะไหล่ ถ้าอะไหล่ทอง-ก็จะตัวหนังสือสีทอง อะไหล่เงิน-ก็จะตัวหนังสือสีเงิน
ป้ายที่เย็บขอบบนด้านเดียว
กระเป๋า Lady Dior มีทั้งที่ MADE IN ITALY และ MADE IN SPAIN (หายาก) นะคะ
ตัวเลข 4 ตัวหลังจะบอกถึง เดือน-ปี ที่กระเป๋าถูกผลิตค่ะ
ตำแหน่งที่ 1 และ 3 จะหมายถึง เดือน
ตำแหน่งที่ 2 และ 4 จะหมายถึง ปี
เพิ่มเติมนิดส์ เท่าที่สังเกต ดิออร์จะนำกระเป๋าออกขายหลังจากผลิต 1-2 เดือนนะคะ
ยกตัวอย่าง Lady Dior Cruise 2011 Limited ออกขายเดือน 12/2010 แต่ date code เค้าคือ 01-MA-1100 = 10/2010
Ex: June 2005
DateCode เริ่มใช้ช่วงหลังปี 1997 เป็นต้นมา ถ้าไม่มีก็แปลว่ารุ่นวินเทจค่ะ
ป้ายรุ่นใหม่ คำว่า "Christian Dior PARIS MADE IN ITALY" จะอยู่ด้านเดียวกันค่ะ
หรือบางที ก็ไม่มีคำว่า "MADE IN ITALY" ด้วยซ้ำ
4. ซิป
หนึ่งในตำแหน่งที่นิยมใช้ดูว่าของจริงหรือปลอมค่ะ ก็คือใต้ท้องซิป เท่าที่เคยเจอนะคะ
5. ปุ่มใต้กระเป๋า
มีทั้งแบบปุ่มใต้กระเป๋าเป็นหน้าตัด ปลายแหลม หรือแม้แต่ไม่มีปุ่มใต้กระเป๋า
หน้าตัด
ปลายแหลมมน
ปลายแหลมเรียว
ปลายแหลมเรียว ปี 2013
ไม่มีปุ่ม มักเจอในกระเป๋าปี 1997 หรือพวกผ้าไนลอนรุ่นวินเทจ
ที่มา :: http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=1178779
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น