วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่องราวของกระเป๋า Lady Dior

   จากการเริ่มต้นในปี 1995 กระเป๋า Lady Dior ของ Christian Dior ก็กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์โลกแฟชั่น เมื่อ Lady Dior ได้ถูกถวายให้กับเจ้าหญิงไดอาน่า จากสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศสในยุคนั้น กระเป๋าที่เปรียบเสมือนอัญมณีใบนี้ ก็กลายเป็นปรากฎการณ์ทางแฟชั่นให้กับเหล่าแฟชั่นนิสต้าทุกคน ด้วยขนาดที่เล็กและเต็มไปด้วยรายละเอียดประณีต Lady Dior คือ ‘Must have bag’ ในตู้เสื้อผ้าของผู้หญิงมากมาย Lady Dior เป็นที่ดึงดูดด้วยแพทเทิร์นของหนังที่ตัดเย็บแบบควิลท์ สร้างพื้นผิวที่ดูสวยงาม หูจับที่เชื่อมด้วยห่วงสีทอง และที่ห้อยตัวอักษรของโลโก้ Dior ทั้งหมดนี้เป็นผลงานการออกแบบของ John Galliano


Anselm Reyle for diorLady Diana with Lady Dior


                   การตัดเย็บกระเป๋าแต่ละใบนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ด้วยการร่วมมือกันของช่างฝีมือ 7 คน ประกอบไปด้วยหนังทั้งหมด 130 ชิ้น ที่ถูกขัด ย้อมสี ตัด และเย็บด้วยมือ ที่ห้อยประดับ Dior นั้น ก็ผ่านการชุบเพื่อความมันวาว การันตีความหรูหราให้กับกระเป๋า Lady Dior


                          

  นอกเหนือจากภาพลักษณ์ของกระเป๋าเองแล้ว Marion Cotillard นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศส ได้รับเลือกให้เป็น face of Lady Dior ตั้งแต่ปี 2009 และมีผลงานใน mini-movie กำกับโดย John Cameron Mitchell




Latest Resort Collection Campaign by Tim Walker


- See more at: http://lofficielthailand.com/2013/11/it-bag-and-its-history-lady-dior/#sthash.jwS5VBwa.dpuf



ที่มา : http://lofficielthailand.com/2013/11/it-bag-and-its-history-lady-dior/

ประวัติ เจ้าของแบรนด์ Christian dior



คริสตีย็อง ดียอร์ (ฝรั่งเศสChristian Dior) เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1905 และเสียชีวิตวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1957 เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าชาวฝรั่งเศส เกิดที่เมืองกร็องวีล (Granville) จังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
ศึกษาด้านการทูต ณ โรงเรียนรัฐศาสตร์ (École des Sciences Politiques) ในกรุงปารีส เขาเริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นในช่วงปี ค.ศ. 1930 และเปิดร้านเสื้อผ้าของเขาเองในปารีสในปี ค.ศ. 1946
ในปี ค.ศ. 1947 เขาได้เปิดตัวแฟชั่นแนวใหม่นามว่า "นิวลุก" ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ เสื้อแบบไหล่แคบและกระโปรงยาว ซึ่งมาแทนที่เสื้อแบบไหล่กว้างและกระโปรงสั้นแบบตรงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เสื้อผ้าแบบนิวลุกได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นสตรี และทำให้ปารีสกลายเป็นศูนย์กลางของโลกแฟชั่น
การออกแบบของดียอร์ในยุคต่อมา เช่น ชุดแซ็ก (ชุดสตรีปล่อยยาวไม่มีเข็มขัด) แบบทรงตรง ยังคงทำให้ดียอร์เป็นผู้นำแฟชั่นในระดับสากล จนเมื่อดียอร์เสียชีวิต เขามีร้านเสื้อผ้าใน 24 ประเทศ และได้รับการสืบทอดต่อมาโดยอีฟว์ แซ็ง โลร็องมาร์ก บออ็อง (Marc Bohan), จันฟรังโก เฟร์แร (Gianfranco Ferre) และจอห์น แกลเลียโน (John Galliano)
ปัจจุบัน ดียอร์ยังคงเป็นยี่ห้อชั้นนำในโลกแฟชั่นและมีผลิตภัณฑ์มากมายหลากหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้าบุรุษและสตรี เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ซึ่งล้วนได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย


 รูปดียอร์บนตราไปรษณียากรของประเทศโรมาเนีย

          


แนวคิดและผลงาน
หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแบนด์เนมยี่ห้อ "Dior" ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคริสเตียน ดิออร์ ซึ่งเขาได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการแฟชั่นเป็นอย่างโดย
ใช้แนวความคิดที่ว่า "The new look" ซึ่งแนวความคิดในครั้งนี้ได้นำออกมาเป็นคอลเลคชั่นซึ่งจะเน้นไปถึงการออกแบบ ที่สื้อผ้าที่หรูหราฟู่ฟ่ากับกระโปรงฟูบานที่จะทำให้ผู้หญิงรู้สึกสดชื่นเหมือนดอกไม้ ผลงานชุดนี้ของเข้านั้นได้สร้างชื่อให้แก่เขาเป็นอย่างมากอีกทั้งยังส่งผลให้ ประเทศฝรั่งเศสเริ่มฟื้นบทบาทมาเป็นเมืองแห่งแฟชั่นของโลกอีกด้วย จนเขาได้รับ ขนานนามว่า "Style Dictator" 

Dior ได้กลายเป็นยอดดีไซน์เนอร์ของสตรีในวงสังคมชั้นสูงด้วยผลงานการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทุกคนที่สวมใส่จะรับรู้ได้ถึงความสวยงามอ่อนหวาน มีบุคลิกที่โก้หรูหรา ผู้หญิงที่มีบรรดาศักดิ์ของยุโรป ภรรยาของผู้นำประเทศ ไปจนถึงเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงล้วนเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Dior ทั้งหมด ทุกคนต่างไว้เนื้อเชื่อใจให้เขาเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานสำหรับโอกาสพิเศษและสำคัญที่ต้องใช้เสื้อผ้า ที่หรูหราไม่เหมือนใคร เขาไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่เคยปรากฏเลยว่าลูกค้าของเขาใส่ชุดที่มีแบบซ้ำกันไป"จ๊ะเอ๋" ในงานเดียวกันให้เกิดอาการ "หน้าแตก" เลยสักครั้ง และนี่คือความภาคภูมิใจของ Dior ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกคน

คริสเตียน ดิออร์ ผู้ได้รับขนานนามว่า " Style Dictator"  


ดิออร์ ยุคสุดท้าย ดิออร์ ผลิตผลงานใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแฟชั่นสูงอยู่ไม่ขาด 
การออกแบบของเขา เน้นฝีมือการตัดเย็บ อย่างประณีต และให้ความสำคัญ 
กับสิ่งที่ละเอียดอ่อน ผลงานการออกแบบของเขาชุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น  
New Look , Oval Line , Open Tulip , Long Line ,Tulip Line,  
หรือ A Line , H Line ล้วนแต่ เน้นความละเอียดอ่อนในการตัดเย็บ 
ฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1957 ดิออร์ ผลิตผลงานชุด Fuseau Collection  
หรือเรียกว่าชุด Spindle ที่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่ดิออร์ทิ้งไว้กับโลกแฟชั่น 
ดิออร์เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ขณะนั้นเขามีอายุได้ 50 กว่าเท่านั้นขณะที่ดิออร์เสียชีวิตนั้น สถานะและถานะทางธุรกิจของเขาได้รับการก่อตั้งจนมั่นคงแล้ว 
การตายของดิออร์เพียงแต่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ในช่วงแรกๆ เล็กน้อย 
เท่านั้น ไม่ได้สะเทือนฐานะของบริษัทเลย



ที่มา : https://sites.google.com/site/historyoffamousbrandname/home/christian-dior/kaneid-christian-dior , https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%87_%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C